ความแตกต่างระหว่าง ยางหยอด 2D และ ยางหยอด 3D

พวงกุญแจ สำหรับบางคนแล้ว ถือว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญไม่น้อยเหมือนกัน เพราะเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยทำให้การเก็บสิ่งเล็ก ๆ อย่างกุญแจบ้าน กุญแจรถเป็นเรื่องที่ง่ายสะดวกต่อการจดจำมากขึ้น และสำหรับบางคนชอบพวกกุญแจมากถึงขั้นสะสมในรูปแบบต่าง ๆ เอาไว้เลย เพราะถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยสะท้อนเอกลักษณ์หรือตัวตนของตนเองได้ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วพวงกุญแจจะใช้กันบางในฐานะของของชำร่วยต่าง ๆ มากกว่า และแบบที่ได้รับความนิยมมากก็คือ พวงกุญแจยางหยอด เพราะสวยงาม ออกแบบได้หลากหลายและดูทันสมัย ซึ่งปัจจุบันก็มีให้เลือกทั้งแบบ 2D กับ 3D ทีนี้ถ้าคุณต้องการสั่งทำจำนวนมากเพื่อใช้แจกในงานต่าง ๆ อาจจะลังเลไม่รู้จะเลือกแบบไหนดีระหว่างแบบ 2D กับ 3D เรามีคำแนะนำมาฝาก

พวงกุญแจยางหยอดแบบ 2D

โดยเริ่มแรกแล้วพวงกุญแจที่เราใช้กันมากในสมัยก่อนก็จะเป็นแบบ 2D เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งพวงกุญแจยางหยอดแบบ 2D นั้นสามารถทำภาพพิมพ์ลวดลายได้ตามที่คุณต้องการ รูปทรงก็สามารถกำหนดได้ตามใจชอบจะเป็นแบบวงกลม สี่เหลี่ยม หรือเป็นหยัก โค้งเว้า ตามรอบของรูปภาพต้นแบบก็ได้ทั้งสิ้น เพราะพวงกุญแจยางหยอดสามารถทำขึ้นรูปได้หลากหลายทรงอยู่แล้ว ความหนาก็สามารถกำหนดได้โดยทั่วไปมาตรฐานจะอยู่ที่ความหนาขนาด 4.0 mm

รูปแบบของงาน 2D นี้จะเห็นลายรูปภาพต่าง ๆ เฉพาะด้านหน้าเท่านั้น
ในส่วนของพื้นที่ขอบด้านข้างและด้านหลังนั้นจะเรียบไม่มีลวดลายใด ๆ ตรงนี้จึงเป็นข้อจำกัดของแบบ 2D ทำให้การมองเราจะเห็นเพียงด้านเดียว

แต่สำหรับในส่วนของด้านหลังนั้นจริง ๆ แล้วเราสามารถเพิ่มตัวอักษรข้อมูล อย่างชื่อบริษัท เบอร์โทรหรือเว็บไซต์ขององค์กรลงไปได้ ซึ่งจะเป็นการสกรีนเพิ่มลงไปนั่นเอง

พวงกุญแจยางหยอดแบบ 3D

สำหรับแบบ 3D นั้นจะให้อารมณ์ความรู้สึกแตกต่างออกไป เพราะความที่เป็น 3 มิติ ภาพที่เลือกใส่ลงไปจึงออกมาครบรอบในทุกด้านของการมองเห็น คือ เราจะเห็นลวดลายทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง เรียกว่าครบทั้ง 3 มิติดูสมจริงมากขึ้น ตรงนี้จึงทำให้พวงกุญแจยางหยอดแบบ 3D มีข้อจำกัดที่น้อยกว่า

สามารถดีไซน์รูปแบบได้เต็มที่ใส่สีได้หลายสีตามที่ต้องการ
ดูทันสมัย และพกพาได้อย่างสะดวก

แต่อย่างไรก็ดีในด้านของราคาก็ย่อมเพิ่มตามความละเอียดของชิ้นงานตามไปด้วย หรือกล่าวได้ว่าราคาจะสูงกว่าแบบ 2D ขึ้นไปอีกเล็กน้อยนั่นเอง

บทสรุป พวงกุญแจยางหยอดแบบไหนดีกว่ากัน

นี่คือข้อแตกต่างของพวงกุญแจยางหยอด 2D กับ 3D จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้มีแบบไหนที่ดีกว่าหรือด้อยไปกว่ากัน ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนมากกว่า หากคุณจะสั่งทำก็ลองนำไปพิจารณากันดู มีดีทั้ง 2 แบบ แต่อาจจะมีความแตกต่างกันบ้างในเรื่องของราคาบ้างนั่นเอง